วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

จะกอดเสา หรือจะเอาธรรม

สรุปว่า งานผ้าป่าที่ผาแดง ผ่านไปด้วยดี ได้ยอดบริจาค 13 ล้านบาทกว่า ก็ขออนุโมทนาผู้มีกุศลจิตที่ร่วมบุญในคราวนี้

จริง ๆ แล้ว ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบุญสร้างเจดีย์หลวงตาฯ ได้ทุกวันอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องรอจัดงานผ้าป่าอีก เพราะคนดำริคงไม่กล้าที่จะจัดให้อีกแล้ว เพราะกลัวเดี๋ยวลูกศิษย์จะเปลี่ยนศรัทธามาหาของแท้ ลาภสักการะของตัวก็จะหายหมด.. สังเกตุดูได้ว่าหากมีงานที่ผาแดงวันใด ท่านนั้นจะต้องมีงานมาชนกันเสมอ วันกฐินก็คงกำหนดให้ตรงกับที่ผาแดง..

สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบก็ขออธิบายให้ทราบดังนี้ เหตุที่มีงานผ้าป่าครั้งนี้ เนื่องจาก วันที่ 30/5/56 อ.อินทร์ถวายได้ประกาศที่บ้านตาดจะจัดงานนี้ขึ้น แต่ที่ประกาศออกสื่อให้สาธารณชนทราบก็ให้หลวงปู่บุญมีเป็นประธานฯ

ลึก ๆ กว่านั้น คงไม่ได้มีจุดประสงค์แค่มาถวายผ้าป่าแน่นอน เพราะร้อยวันพันปี อ.อินทร์ฯ ไม่เคยคิดที่จะมาหาเลย ในวันวางศิลาฤกษ์เจดีย์หลวงตาฯ ที่ผาแดง ก็จัดงานที่วัดตัวเองประชัน กุฏิหลวงปู่ลีที่สวนแสงธรรม ก็ยึดมาเป็นของตัวเองไว้พักตอนลงมากรุงเทพฯ ซึ่งครั้งบูรณะสวนแสงธรรมหลังน้ำท่วมปี 54 ก็ไม่ปรากฎว่าตัวท่านหรือสั่งการลูกศิษย์ให้มาช่วยบูรณะ และไม่เคยขออนุญาตใช้หรือเข้าพักสวนแสงธรรม ตามข้อบังคับฯ ที่ต้องขออนุญาตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาดทุกครั้ง แล้วยังบังอาจทำการเปลี่ยนโถส้วม และยกกุฏิหลวงปู่ลีให้สูงขึ้นจากเดิม โดยไม่ได้ขออนุญาตหลวงปู่แต่อย่างใด ทำให้กุฏินี้สูงกว่ากุฏิหลวงตา แล้วยังดำริที่จะสร้างรูปเหมือนหลวงตา หน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 14 เมตร ทั้งหมดนี้ผิดธรรมเนียมอริยะประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมา

ครั้งที่มีผู้ศรัทธามาถวายตั่งแด่หลวงปู่ลี ที่สวนแสงธรรม แม้ตั่งจะมีความสูงเท่ากับตั่งของหลวงตา หลวงปู่ลีก็ได้สั่งให้ลูกศิษย์ไปเลื่อยขาตั่งให้ต่ำกว่าตั่งหลวงตาฯ หลวงตาสั่งห้ามสร้างเจดีย์ ที่บ้านตาด ท่านก็ไม่สร้างตามคำสั่ง โดยไปสร้างที่ผาแดง หลวงปู่ลีท่านก็สอนลูกศิษย์หรือหมู่คณะบ่อย ๆ ว่า หลวงตาท่านทำสิ่งใดไว้ สั่งสิ่งใดไว้ เราลูกศิษย์ที่เคารพรักหลวงตาฯ ก็จะำทำตามนั้น ดังที่ท่านพูดบ่อย ๆ ว่า "ฟังเพิ่นแม้.. ฟังเพิ่นแม้.. " ทำตามที่หลวงตาฯ ท่านพูดหรือสั่งไว้ จะไม่เสียหายเลย

กรณีที่หลวงตาเรียกลูกศิษย์ว่า ธรรม... หรือ เพชรน้ำหนึ่ง ? หลวงตาท่านเป็นพ่อเป็นแม่ ถึงอย่างไรพ่อแม่ก็ไม่ทำร้ายลูก มีแต่ส่งเสริมลูก ดังนี้ จึงเป็นการให้กำลังใจหรือการชม เพื่อลูกจะได้ประพฤติปฏิบัติให้สมกับคำชม ไม่ใช่เอาไปใช้หาลาภสักการะ มีลูกศิษย์หลายองค์ที่หลวงตาชม ต่อมาถูกไล่ออกจากวัดก็มี ยิ่งไปกว่านั้นผู้ถูกชมตอบแทนผู้ให้คำชมด้วยการว่าท่านญาณเสื่อม เพราะผู้ถูกชมย่อมรู้ตัวเองว่าไม่มีธรรมใด ๆ และไม่เฉลียวใจว่าทำไมหลวงตาจึงชม อีกทั้งที่หลวงตาว่ากล่าวตักเตือนก็มีเป็นหลักฐาน ไม่เห็นจะเอาไปใช้บ้างเลย นี่แหละโลกธรรม 8 จะเอาแต่คำชมแต่ไม่เอาคำด่า สำหรับกรณีเกสาเป็นพระธาตุ ก็ให้พิจารณาเทียบกับ ความเสมอต้นเสมอปลาย ธรรมคำสอน ข้อวัตรปฏิปทา และการกระทำต่อพ่อแม่ครูจารย์ ดูก็จะรู้ว่าเป็นพระธาตุจริงหรือปลอม  

กรณีที่มีชื่ออยู่ในพินัยกรรม? หลวงตาฯท่านรู้ว่างานใดเหมาะกับลูกศิษย์องค์ใด หรือถนัดทางไหน ก็จะมอบหมายงานนั้นให้  เช่น ใครถนัดเรื่องมวลชนก็มอบหมายให้ไป และควรจะรับผิดชอบเท่าที่ตัวเองได้รับมอบหมาย เพราะไม่ได้สักไว้ที่หน้าผาก ไม่ใช่สามารถจัดการได้ทุกเรื่องตลอดไป ขอให้ทุกคนได้ติดตามดูว่าในวันที่ 12 สิงหาปีนี้ ซึ่งจะครบรอบ 100 ปีชาตกาลของหลวงตาฯ จะมีการจับไมค์ของพระองค์นี้อีกหรือไม่ แล้วทำไมถึงชอบจับไมค์ในงานใหญ่ ๆ แม้พินัยกรรมไม่ได้สั่งไว้ แต่บอกได้โดยนัยอยู่แล้ว..

ในงานผ้าป่านี้ ได้มีการพยายามล็อบบี้พระกันอยู่หลายองค์ เพื่อที่จะสร้างเจดีย์ฯ ตรงเมรุให้ได้ พระที่ไม่เห็นด้วย เดินทางกลับวัดก่อนก็มีอยู่หลายองค์ แต่พอถึงเวลาตัวเองเข้าไปหาหลวงปู่ลี กลับไม่กล้าจะแสดงจุดยืนที่ตัวเองต้องการ ก็ให้ถือว่าว่ายอมรับมติสงฆ์ วันที่ 19 เมษายน 2556 เพราะในวันนั้นได้นิมนต์ อ.อินทร์ฯ มาร่วมประชุมสงฆ์ด้วยแต่ก็ไม่มาประชุม และมติสงฆ์นี้ก็สอดคล้องกับ มติสงฆ์ครั้งแรกที่พระมาประชุมกัน 1,000 กว่าองค์ หากแม้หลวงตาฯ ยังอยู่ ท่านจะเคารพมติสงฆ์นี้ โดยไม่ยำเกรงเรื่องโลก ๆ ใด ๆ 

หากจะอ้างว่าหลวงตาฯ ได้ชี้จุดสร้างไว้แล้วตรงเมรุ ก็เป็นความจริง แต่ท่านให้สร้างพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ เท่านั้น พระผู้ที่จะมาเป็นพยานการชี้จุด จะมาหรือไม่ก็ไม่สำคัญ เพราะมีมติสงฆ์แล้วถือเป็นอันยุติ และท่านนั้นก็มีคดีติดตัวอยู่ ต้องกระเด็นออกจากบ้านตาด เพราะอะไรคงไม่ต้องแฉ แต่อย่าไปอ้างว่าผู้หญิงมาขอเป็นลูกบุญธรรมเลย อ้างอย่างนี้มันน่าสังเวชมาก หลวงปู่ลีก็ว่า "พระเหี้ยจัญไร" หากยังไม่รีบมาขอขมา อยู่ไปก็ไม่มีความเจริญ ตายไปก็รู้กัน

แล้วทำไมจึงมีกลุ่มพระที่คิดจะรื้อศาลาใหญ่?  พระอรหันต์สององค์บอกตรงกัน ว่ามันจะเอากระเบื้อง เสา ไปทำพระขาย อ้างตัวว่าเป็นศิษย์เอก จะกอดเสา แต่ไม่เอาธรรม..