วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

โง่แล้วขยัน..

นี่คือ..ตัวอย่างหนึ่งของโง่แล้วขยัน เห็นภาพพ่อแม่ครูจารย์ แล้วอยากจะใส่คำอธิบายภาพลงไป เมื่อเผยแพร่ออกไป จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง ว่าพระองค์แรกที่ถือไม้เท้าคือองค์พระหลวงปู่มั่น
องค์หลัง คือ หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต


แท้จริงแล้ว หลวงตาได้พูดถึงภาพนี้ว่า..
"..เอ๊ นี่รูปใครถ้าว่าไม่ใช่รูปหลวงปู่มั่น ใครเอามาไว้สุ่มสี่สุ่มห้า ว่ารูปเรา มันรูปยังไงนา เราไม่เคยอาจเอื้อมที่จะไปถ่ายรูปกับหลวงปู่มั่นนี่นะ ใครมาทำ (ไม่ใช่หลวงปู่มั่น เป็นหลวงปู่ชอบเจ้าค่ะ พ่อแม่ครูจารย์ไปดูใกล้ๆ) แล้วเขียนว่าหลวงปู่มั่นทำไม เขียนว่าหลวงปู่มั่น หลวงปู่หลุย แล้วหลวงตาบัว เราเลยไม่แน่ใจทั้งนั้น (พระท่านเคยเห็นรูปขาวดำ ท่านบอกไม่ใช่หลวงปู่มั่นเหมือนกันครับ ท่านบอกเป็นหลวงปู่ชอบครับ) ก็นั่นซี ก็ไม่เคยเห็นท่านถือไม้เท้า เราไปอยู่กับท่านจนกระทั่งท่านมรณภาพไม่เห็นท่านถือไม้เท้าเลย และรูปท่านก็ไม่ได้ถ่ายง่ายๆ นะ ท่านไม่ให้ถ่าย ที่ธาตุพนมนั่นท่านอนุญาตให้ลูกศิษย์เก่าของท่าน โยมทองอยู่ ธาตุพนม ถ่าย ท่านอนุญาตให้แล้วก็ท่านให้ทุกท่าเลย นั่งขัดสมาธิ ไม้ค้ออยู่ที่ศาลาวัดป่า แล้วก็ยืน ท่านให้ทั้งนั้นละ เราก็อยู่ที่นั่นนี่.."

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙
ฤทธิ์คำสัตย์คำจริง
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=4071&CatID=2

แล้วจะต่างอะไรกับ..
การเอาหนังสือประวัติหลวงปู่มั่น ที่เรียบเรียงโดยหลวงตา มาทำเป็นหนังสือภูริทัตตะ อัครเถราจารย์ การกระทำนี้มันผิดตั้งแต่เริ่มคิดแล้ว... หากยังจะดำเนินการเผยแพร่ต่อไป ธรรมคำสั่งสอนของหลวงปู่มั่นก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามกิเลสคนเขียนหนังสือและแหล่งที่มาที่ไม่ได้รู้เห็นจริง เช่นเดียวกับรูปภาพข้างต้น แต่จะเป็นกรรมที่หนักกว่าเพราะทำให้คนอื่นหลงทาง ข้ามน้ำผิดท่า

รวมทั้งหนังสืออีกเล่มที่ทำขาย ก็เอาความเห็นส่วนตัวมาใส่ แต่งตั้งให้พระที่กล่าวตู่พระพุทธเจ้า ว่าเป็นพระอริยะเจ้า และยังเอาพระรูปนั้นมาเปรียบเทียบกับหลวงปู่มั่น

หากคิดว่าตนฉลาดมีความสามารถเพียงพอ ทำไมไม่เอาประวัติหลวงปู่มั่นที่เขียนโดยคนอื่นเอามาทำหนังสือล่ะ หรือจะเขียนขึ้นมาเองก็ได้ คนเราจะสูงขึ้นมาได้ ไม่ต้องเหยียบหัวคนอื่นขึ้นไปหรอก

ถ้าโง่แล้วอยู่เฉย ๆ ก็จะไม่มีใครว่า ขอให้นำไปพิจารณา..