วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ประชุมเรื่องพิพิธภัณฑ์และเจดีย์ของพ่อแม่ครูจารย์หลวงตามหาบัว ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๘



หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ,หลวงปู่ลี กุสลธโร,พระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน 
ประชุมเรื่องพิพิธภัณฑ์และเจดีย์ของพ่อแม่ครูจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน 
ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการมีท่านผู้ว่าฯเป็นต้น ณ วัดป่าบ้านตาด 
โดยหลวงปู่ลี ให้สร้างแต่เจดีย์ส่วนประกอบอื่นๆไม่ให้สร้าง 
ซึ่งตอนท้ายส่วนราชการได้ถามความเห็นหลวงปู่บุญมี 
องค์หลวงปู่บุญมี ได้ตอบเห็นด้วยกับองค์หลวงปู่ลี

วันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สัญชัยปริพาชก

อุปติสสะหรือพระสารีบุตร ได้พบกับพระอัสสชิเถระ ซึ่งมีกิริยาน่าเลื่อมใส จึงเข้าไปสอบถามและได้ฟังธรรมว่า

"ธรรมเหล่าใด มีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และเหตุแห่งความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระตถาคตมีปกติ ตรัสอย่างนี้" 

อุปติสสะได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นพระโสดาบัน แล้วจึงไปบอกแก่โกลิตะ หรือ พระโมคคัลลานะนั่นเอง ทำให้โกลิตะบรรลุเป็นพระโสดาบันด้วย ทั้งสองจึงพากันไปชวนสัญชัยปริพาชกผู้เป็นอาจารย์ สัญชัยห่วงลาภสักการะจึงไม่ยอมไป และได้ถามกลับว่า "ในโลกนี้คนโง่ หรือคนฉลาดมากกว่ากัน"

พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะตอบว่า "คนโง่มีมากกว่า" สัญชัยปริพาชกจึงกล่าวว่า "ถ้าอย่างนั้น คนฉลาด ๆ จักไปสู่สำนักของพระสมณโคดม ส่วนคนโง่ ๆ จักมาสู่สำนักของเรา เงินไหลทะลักสู่สำนักของเรา" ดังนี้แล้วก็ไม่ไป

วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

การลงมือก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ

แถลงการณ์ ฉบับที่ (พิเศษ) ๑/๒๕๕๘
เรื่องการลงมือก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์
พระธรรมวิสุทธิมงคล(หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)
ณ วัดป่าบ้านตาด

               ด้วยปรากฏเป็นข่าวที่รับทราบโดยทั่วกันในขณะนี้ว่า ทางจังหวัดอุดรธานีโดยคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะเริ่มเข้ามาปรับพื้นที่ เพื่อเตรียมการก่อสร้าง พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ณ วัดป่าบ้านตาด ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ โดยยืนยันจะใช้ “แบบแปลน” ครบทั้ง ๓ ส่วน อันได้แก่ ส่วนพระเจดีย์ ส่วนวิหาร และส่วนหอประวัติ ทั้งๆ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดก็ทราบดีว่า องค์หลวงปู่ลี กุสลธโร พระมหาเถระผู้เป็นที่ไว้วางใจขององค์หลวงตาฯ ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ องค์หลวงปู่พิจารณายอมรับเฉพาะ “ส่วนพระเจดีย์” ที่สูงไม่เกิน ๖๐ เมตร โดยให้สร้างลงในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้เท่านั้น ซึ่งความเห็นดังกล่าวมิใช่ความเห็นส่วนตัวขององค์หลวงปู่ หากแต่เป็น “มติขององค์หลวงตาฯ” ที่เคยปรารภไว้ล่วงหน้าก่อนแล้วเป็นการเฉพาะ องค์หลวงปู่จึงถือปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด

               ทั้งนี้ ในการตัดสินใจของวัดป่าบ้านตาดโดยพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน เจ้าอาวาส ก็ได้มีหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ(ที่พิเศษ ๐๖๔/๒๕๕๘ และ ๐๖๕/๒๕๕๘ ลว.๙ ตุลาคม ๒๕๕๘) ต่อผู้ประสานงานโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ และต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้ได้ทราบถึงความเห็นของวัดป่าบ้านตาดที่สอดคล้องตรงกันกับความเห็นขององค์หลวงปู่ในข้างต้นแล้วด้วย และยังได้ทวง “แบบแปลน” ขอให้คณะผู้ออกแบบฯ รีบจัดส่งคืนมาที่วัดป่าบ้านตาดโดยเร็วอีกด้วย เพื่อจะได้เริ่มลงมือก่อสร้าง “ส่วนพระเจดีย์” ในที่ที่องค์หลวงปู่ได้จัดเตรียมที่ไว้ให้โดยทันที แต่จนบัดนี้ก็ไม่ปรากฏผลใดๆ ตามที่ได้ร้องขอและยังมีทีท่าจะก้าวล่วงยิ่งขึ้นไปอีก

               ด้วยเหตุนี้ องค์หลวงปู่ลี กุสลธโร จึงได้ยื่นคำขาดไว้แล้วว่า หากมีการฝ่าฝืน “มติขององค์หลวงตาฯ” โดยทางจังหวัดยังจะนำกำลังและอุปกรณ์เข้ามาปรับพื้นที่ในบริเวณเขตหวงห้ามในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ หรือวันอื่นใดให้จงได้ และหากแม้ต้นไม้เพียงต้นเดียวได้ถูกทำลายไปแล้วไซร้ องค์หลวงปู่จะไม่ขอมายุ่งเกี่ยวกับทางวัดป่าบ้านตาดอีกตลอดไปตราบจนวาระสุดท้ายแห่งชีวิต นั้น

               คณะศิษย์วัดป่าบ้านตาด ได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าสอบถามความเห็นของคณะสงฆ์วัดป่าบ้านตาด พบว่า คณะสงฆ์วัดป่าบ้านตาดมีความเห็นสอดคล้องตรงกับองค์หลวงปู่ลี กุสลธโร และเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ทุกประการ โดยได้ให้เหตุผลด้วยว่า เป็นการแสดงออกถึงความเคารพบูชาต่อ “มติขององค์หลวงตาฯ” ซึ่งได้เมตตาพิจารณากลั่นกรองโดยธรรมอย่างสมบูรณ์แล้ว

               ดังนั้น เพื่อให้เป็นที่ปรากฏแก่สาธารณชน มิให้มีความคลางแคลงใจหรือมีข้อลังเลสงสัยใดๆ อีกต่อไปได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้เกิดความสับสนจากการตีความหมายที่ผิดไปจากความจริง คณะศิษย์จึงขอแถลงการณ์ให้เกิดความชัดเจน ดังนี้

              ๑. ขอเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีและส่วนราชการต่างๆ ยุติแนวคิดและการกระทำอันเป็นการละเมิดต่อ “มติขององค์หลวงตาฯ” ต่อความเห็นขององค์หลวงปู่ลี และต่อสิทธิของวัดป่าบ้านตาด

              ๒. หากทางจังหวัดประสงค์จะช่วยเหลือวัด ก็ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรีบลงมือก่อสร้างในเขตพื้นที่ที่องค์หลวงปู่ลี กุสลธโร ได้เมตตาจัดเตรียมไว้ให้โดยเร็วที่สุด โดยใช้ “แบบแปลน” เฉพาะ “ส่วนพระเจดีย์” สูงไม่เกิน ๖๐ เมตร เท่านั้น ขอความกรุณาอย่าให้เนิ่นช้าต่อไปอีกเลย จักเป็นพระคุณอย่างสูงยิ่ง

               ทั้งนี้ แบบแปลนใน “ส่วนพระวิหาร” และ “ส่วนหอประวัติ” นั้น คณะศิษย์มิใช่ไม่ยอมรับหรือไม่พอใจในความงดงามของแบบแปลน ๒ ส่วนนี้ คณะศิษย์ต่างเห็นว่าเป็นงานออกแบบที่งดงามวิจิตรตระการตาอย่างยิ่งสมกับคุณูปการอันยิ่งใหญ่ขององค์หลวงตาฯ ที่มีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คณะศิษย์จึงร่วมอนุโมทนาสาธุการในบุญกุศลครั้งนี้ของคณะผู้ออกแบบฯ จากใจจริง อย่างไรก็ตาม ในเมื่อองค์หลวงปู่ได้เมตตายืนยันมาหลายวาระแล้วว่าขอให้ดำเนินการตาม “มติขององค์หลวงตาฯ” ด้วย ฉะนั้น แม้จะฝืนใจเพียงใด หรือแม้จะงดงามเพียงใด คณะศิษย์ก็ยอมตัดใจได้

               คณะศิษย์จึงขอให้ทางจังหวัดและผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย โปรดเสียสละ “ความคิดส่วนตัว” ขอให้หลอมเข้ามารวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับ “ความคิดส่วนรวม” ตาม “มติขององค์หลวงตาฯ” ซึ่งเป็นศูนย์รวมดวงใจของศิษย์ทุกหมู่เหล่า ด้วยเทอญ

              ๓. คณะศิษย์ทราบว่า วัดป่าบ้านตาดเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ใน “แบบแปลน” ทั้ง ๓ ส่วนนั้น และในเบื้องต้นทางวัด “ไม่สงวนสิทธิ์” หากจะมีผู้ใดหรือองค์กรภาครัฐ/ภาคเอกชนรายใดที่ได้ยื่นขออนุญาตต่อทางวัดอย่างเป็นทางการว่า มีศรัทธาปสาทะประสงค์จะขอก่อสร้าง “ส่วนพระวิหาร” และ “ส่วนหอประวัติ” ตามแบบแปลนนี้ ณ ที่แห่งอื่นซึ่งมิใช่ที่ดินของวัดป่าบ้านตาด ซึ่งหากมีเจ้าศรัทธาเช่นว่านี้จริง ทางวัดก็อาจเข้าหารือต่อพระมหาเถระและต่อคณะสงฆ์กรรมฐานเพื่อให้ได้ความเห็นที่รอบคอบที่สุด

              จึงแถลงการณ์มาเพื่อกรุณาทราบโดยทั่วกัน ขอให้นำแถลงการณ์ฉบับนี้แจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีในทันทีด้วย


                      นางสาวบัวทิพย์ สิงหสุริยะ
                    ในนามคณะศิษย์วัดป่าบ้านตาด
                         ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2558

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อย่าให้มันเลยฐานะของตัวเอง..

..
          เช่นอึ่งอ่างกับวัว เห็นไหมนิทาน อึ่งอ่างกับวัวหลวงตาได้นำมาแสดงให้พี่น้องทั้งหลายถือเป็นคติหลายครั้งแล้วนะ อึ่งอ่างกับวัว วัวหมายถึงหลักธรรมชาติ ได้แก่ธรรม อึ่งอ่างได้แก่กิเลส มันชอบพองตัวของมันเสมอ ตัวเท่ากำปั้นอึ่งอ่าง แต่มันชอบพองแข่งวัวทั้งตัว วัวตัวหนึ่งแม้แต่ลูกวัวมันก็ตัวใหญ่กว่าอึ่งอ่างนะ อึ่งอ่างมันก็ชอบพองตัวของมัน ดังนิทานท่านแสดงไว้ แต่ก่อนเราก็เห็นในหนังสือตอนเราเป็นนักเรียน เขาเรียนนิทานอะไร นิทานอีสป เอามาให้อ่านเราก็อ่าน อ่านไปเจออันนี้ละ ครูเขานำมาสอน อึ่งอ่างกับวัว
          อึ่งอ่างมันอยู่ในรู ภาษาเราเรียกว่าลูกอึ่งอ่างนั้นเฝ้าบ้าน แม่อึ่งอ่างไปเที่ยวหากิน แล้วก็มีสัตว์ตัวหนึ่งตัวใหญ่ สัตว์ตัวนั้นคือวัว เขาเที่ยวหากินมาหน้าบ้านของลูกอึ่งอ่าง หน้าบ้านคือปากรู ปากรูเขา ปากถ้ำเขา เขาเที่ยวหากิน เขาไม่ได้สนใจกับอึ่งอ่างแหละ เขาหากินไปธรรมดา ทีนี้ลูกอึ่งอ่างที่อยู่ในรูก็กลัวสัตว์ตัวใหญ่ๆนั้นจะเหยียบเขาตาย เขาก็หลบนั้นหลบนี้อยู่ในรู คืออยู่ในบ้านเขานั่นแหละ เรื่องก็ผ่านไป
          พอเรื่องผ่านไปวัวเขาก็ผ่านของเขาไปแล้ว แม่ไปหากินกลับมาลูกก็ร้องทุกข์ต่อแม่ ตะกี้นี้หนูเกือบตาย เป็นเพราะอะไรถึงเกือบตาย ก็มีสัตว์ตัวหนึ่งตัวใหญ่ๆ มันเหยียบย่ำมาแถวนี้ละ หนูกลัวมันจะเหยียบหนู หนูหลบหนูหลีกอยู่ในบ้านของเรา บ้านได้แก่รูของอึ่งอ่าง หลบไปหลบมา สัตว์ตัวนั้นเขาก็ไป หนูก็รอดตายมาได้ ถึงได้ร้องทุกข์ต่อแม่ มันตัวใหญ่นักเหรอ แม่ถามนะ ใหญ่แม่ แม่ก็พองตัว อึ่งอ่างมันพองตัว มันเท่านี้ไหม แม่พองตัวให้ลูกดู ว่าที่พองตัวขึ้นมานี่มันเท่าสัตว์ใหญ่ตัวนั้นไหม บอกโอ้ยมันใหญ่กว่านี้แม่ แม่ก็พองขึ้นเรื่อย สุดท้ายแม่พองจนท้องแตกตายเลย ก็ไม่ใหญ่เท่าวัว ความใหญ่มันก็คือความตายของมัน
          อันนี้อย่าเป็นอึ่งอ่างพองตัว แข่งดีแข่งเด่นชิงดีชิงเด่นกับโลกกิเลสด้วยกัน ไม่มีวันแพ้วันชนะกัน มีแต่ขนทุกข์เข้ามาสู่ตัวเอง แข่งเท่าไรยิ่งเป็นการขนทุกข์เข้ามาสู่ตัวเอง เราต้องอยู่ในฐานะตามกำลังวังชาของเรา ขวนขวายหามาได้มากน้อย ควรจะได้แค่ไหนก็อยู่ตามสภาพของเรา เมื่อตะเกียกตะกายสุดกำลังแล้วให้อยู่ในระดับพอดีกับฐานะของเรา อย่าดีดอย่าดิ้น ถ้าดีดดิ้นเกินไปแล้วมันจะยุ่งมากนะ หามาอยู่มากินไม่เพียงพอ แล้วคิดใหญ่ขึ้นมา

เทศน์อบรมฆราวาส
ณ ศาลาสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
เมื่อเช้าวันที่ ๒๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๙
อย่าให้มันเลยฐานะของตัวเอง
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=3983&CatID=2

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า แล้วยังกล้า ขับรถชนภูเขา

 ถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า

เขามีอะไร เอ้าโยน ก็เหมือนกับถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า มันก็มาฟาดหน้าตัวเองนั่นแหละ โยนไปไหนไม่ไปมันก็เข้ามาหาเจ้าของๆ
:
ใครอยากจะทำลายตน ใครอยากจะเอามูตรเอาคูถมาโปะหัวตัวเอง แล้วเอามูตรเอาคูถไปอวดโลกสงสารเขามีไหม แม้แต่เด็กก็ไม่ทำ

เทศน์อบรมฆราวาส
วันที่ : 15 สิงหาคม 2546 เวลา : 08:20:00 น. สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด

ขับรถชนภูเขา

มันจะเลวลงทุกวันนะเมืองไทยเรา อย่าเอากิเลสมาอวดธรรม กิเลสคือกองมูตรกองคูถทั้งกอง อย่าไปอวดทองคำทั้งแท่งคือธรรมนั้นเลย อย่าเด็ดขาดทีเดียว ไม่มีอะไรเหนือกรรม กรรมคือธรรมอยู่ในนั้นครอบหมดแล้ว เราจึงได้บอกว่า อย่าขับรถชนภูเขา อย่าเอามีดไปฟันหิน นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก

ขึ้นชื่อว่าความชั่วแล้วเหมือนขับรถชนภูเขา 
เทศน์อบรมฆราวาส
วันที่ : 26 พฤษภาคม 2549 เวลา : 07:40:00 น. สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เจดีย์อยู่ตรงไหน?

     พินัยกรรมฉบับนี้ทำที่วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ทำเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2543 ข้าพเจ้าพระธรรมวิสุทธิมงคล (พระมหาบัว ญาณสัมปันโน) อายุ 87 ปี พำนักอยู่ที่วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ขอทำพินัยกรรมฉบับนี้เพื่อให้ทราบว่า เมื่อข้าพเจ้ามรณภาพแล้ว ให้จัดการทรัพย์สินและทำงานศพข้าพเจ้าดังนี้

     1. บรรดาทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วในขณะที่ข้าพเจ้ามรณภาพ และบรรดาทรัพย์สินต่าง ๆ ที่จะได้รับบริจาคในงานศพของข้าพเจ้าให้จัดการดังนี้
          1.1  ส่วนที่เป็นทองคำให้หลอมเป็นทองคำแท่ง
          1.2  ส่วนที่เป็นเงินไม่ว่าจะเป็นเงินสกุลใดให้นำเข้าซื้อทองคำแท่ง
ให้นำทองคำแท่งทั้ง ข้อ 1.1 และ 1.2 ไปมอบให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อใช้เป็น เงินทุนสำรองเงินตราของฝ่ายบำบัดธนาคารแห่งประเทศไทย โดยข้าพเจ้าไม่มีเจตนาที่ใช้บุคคลใดหรือคณะบุคคลใดนำไปใช้ในงานอันใด นอกจากใช้เป็นเงินทุนสำรองของประเทศ

     2. ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นจัดงานศพและจัดการดูแลทรัพย์สินทั้งปวงที่มีอยู่ในขณะมรณภาพและที่จะได้รับบริจาคในงานศพของข้าพเจ้าโดยให้ดำเนินการอย่างเปิดเผยและดำเนินการตามเจตนาของข้าพเจ้าระบุไว้ในข้อ 1.

     3. ให้คณะกรรมการตามข้อ 2 จำนวน 9 คน ประกอบด้วย
          1. พระอาจารย์ฟัก สันติธัมโม
          2. พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก
          3. พระอาจารย์ปัญญา ปัญญาวัฑโฒ
          4. พระอาจารย์วันชัย วิจิตโต
          5. องคมนตรี ดร.เชาวน์ ณ ศีลวัน
          6. นายศิริ คูสกุล
          7. ม.ร.ว.ทองศิริ ทองแถม
          8. พ.ต.อ.กฤษดา บูรณพานิช
          9. พ.ต.ปัจจัย นารินรักษ์

     4. ข้าพเจ้าขอตั้งให้พระสุดใจ ทันตมโน รองเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด เป็นผู้จัดการมรดกของข้าพเจ้า

     พินัยกรรมฉบับนี้ทำไว้ 3 ฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน เก็บไว้ 3 แห่งคือ ฉบับแรกที่วัดป่าบ้านตาด ฉบับที่ 2 เก็บไว้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอุดรธานี ฉบับที่ 3 เก็บไว้ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาอุดรธานี

     พินัยกรรมฉบับนี้ทำขึ้นด้วยความสมัครใจของข้าพเจ้า และข้าพเจ้ายังมีสติสัมปชัญญะดีทุกอย่าง จึงลงชื่อไว้ต่อหน้าพยาน

                                                  ลงชื่อ พระมหาบัว ญาณสัมปันโน (พระธรรมวิสุทธิมงคล)

                                                  ลงชื่อ พระปัญญา ปัญญาวัฑโฒ พยาน และ พระสุดใจ ทันตมโน พยาน

                                                                                                                                                                
  • ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ หลวงตาฯ อ่านคำสั่งออกอากาศ
    หลวงตาฯ ได้อ่านคำสั่งฯ ห้ามสร้างเจดีย์ฯ เพื่อประกาศให้ทราบแก่สาธารณชน ผ่านทางวิทยุเสียงธรรมฯ และทีวีดาวเทียม
  • ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ คำสั่งหลวงตาฯ
    หลวงตาฯ มีคำสั่งให้พระอาจารย์อินทร์ถวาย ปิดบัญชีซึ่งได้เปิดเพื่อรับบริจาคซื้อที่ดินและสร้างเจดีย์ และมีคำสั่งห้ามก่อสร้างเจดีย์ฯ บนที่ดินใหม่ของวัดโดยเด็ดขาด โดยทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อ
  •                                                                                                                                                                 




    วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

    วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

    อย่าดูถูกความนิ่งเฉยของพระอริยเจ้า



    เราจะเอาของไปให้ธรรมลี ให้ใครจัดเสีย เศรษฐีธรรมนะนั่นธรรมลีของเล่นเมื่อไร ใครไม่รู้เศรษฐีธรรม ใครไม่ค่อยรู้ ความเพียรเก่ง ไปกับเรา ความเพียรเก่ง ใจเด็ด...

    เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
    เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๒
    ทุกข์ไม่มีแก่ผู้ไม่เกิด

    วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2558

    พ่อแม่ครูจารย์เพิ่นสั่งไว้หมดทุกอย่างแล้ว...



    " ที่ลงมาทำพิพิธภัณฑ์พ่อแม่ครูจารย์นี่ บ่แม่นมติเจ้าของเด๊ะ พ่อแม่ครูจารย์เพิ่นสั่งไว้หมดทุกอย่างแล้ว สั่งไว้ให้สร้างหม่องฮั่นหม่องนี่ ปลูกกกไม้หม่องฮั่นหม่องนี่ เพิ่นสั่งไว้หมดแล้ว เพิ่นบอกให้ระวังพระองค์นั้นองค์นี่เพิ่นกะบอกไว้หมด มีแต่บ่เว้าให้ไผฟังซื่อ ๆ มันเป็นปัจจัตตัง เว้าให้ผู้ใด๋ฟังเขากะบ่เข้าใจดอก "

    หลวงปู่ลี กุสลธโร
    ปรารภ ณ วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี
    ๒๓ มีนาคม ๒๕๕๘

    วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558