วันอังคารที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

แจ้งข่าวความคืบหน้า โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์

แจ้งข่าวความคืบหน้า
โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์
พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)

        เนื่องในวันนี้เป็นวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญอย่างยิ่งในทางพระพุทธศาสนาที่ได้มีเหตุการณ์อัศจรรย์อันเกี่ยวข้องกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึง ๓ เหตุการณ์ คือ วันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน และความสำคัญดังกล่าวเป็นเหตุผลประการแรก ส่วนเหตุผลอีกประการหนึ่งก็เนื่องจากในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ที่จะถึงนี้ เป็นวันครบรอบ ๖๔ ปี แห่งการบรรลุธรรมขององค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน สำเร็จเป็น “พระอรหันตสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์หนึ่งในสมัยปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์” ด้วยเหตุผลที่เกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันดังกล่าว คณะศิษยานุศิษย์จึงถือเอาวันทั้งสองเป็นวันสำคัญที่สุดของเราทั้งในนาม “พุทธศาสนิกชน” และในนาม “ลูกศิษย์องค์หลวงตาฯ” เราจึงต้องจักดำเนินรอยตามปฏิปทาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพ่อแม่ครูบาอาจารย์ และเพื่อเป็นการบูชาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและตอบแทนคุณขององค์หลวงตาฯ ที่ได้ปฏิบัติตนเป็นพุทธสาวกที่ดีงามจนสามารถครองธรรมขึ้นภายในใจได้สำเร็จเป็น “พระอรหันตสาวกที่ทำประโยชน์ต่อทางโลกและทางธรรมได้มากที่สุดรูปหนึ่งในยุคสมัยนี้”  เมื่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสยืนยันไว้แล้วว่า พระอรหันต์เป็นบุคคลที่คู่ควรแก่การสร้าง “เจดีย์” ไว้สำหรับกราบไหว้บูชา พ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายจึงเห็นพ้องต้องกัน ขอให้คณะศิษย์อาศัยโอกาสอันเป็นมหามงคลทั้งสองเหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการแสดงสามัคคีธรรมในโครงการ “พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)” ณ วัดป่าบ้านตาด ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธาน ให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติขององค์หลวงตาให้จงได้ ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นวาระๆ ไปคณะศิษย์ขอแสดงความกตัญญูกตเวทีโดยขอปวารณาว่า จะพร้อมใจกันร่วมสมทบทุนในการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ แห่งนี้อย่างต่อเนื่องจากวันก่อตั้งจนแล้วเสร็จโดยสมบูรณ์
สำหรับความเป็นมาของโครงการจนถึงบัดนี้นั้น กระผม นายทนันชัย ตรังคานุกูลกิจ ได้รับความเมตตาจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย รวมถึงท่านพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด มีเมตตามอบหมายให้กระผมทำหน้าที่แจ้งข่าวความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ณ วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ที่มีทูลกระหม่อมเจ้าฟ้าหญิงฯ ทรงเป็นองค์ประธาน ว่า จนถึงขณะนี้มีความคืบหน้าเป็นประการใดบ้าง พี่น้องประชาชนจากทั่วทุกสารทิศ คณะศิษยานุศิษย์ รวมทั้งพ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่างสอบถามข่าวคราวในเรื่องนี้ด้วยความสนใจและห่วงใย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่วัดป่าบ้านตาดมักมีผู้เข้ามาสอบถามอยู่เสมอ กระผมจึงกราบขอโอกาสรายงานความคืบหน้าเฉพาะประเด็นสำคัญเป็นข้อๆ ตามลำดับเหตุการณ์ ทราบโดยย่อดังนี้
๑.    เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ ทูลกระหม่อมเจ้าฟ้าหญิงฯ ทรงมีพระวินิจฉัยเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ เป็นการตอบหนังสือของวัดป่าบ้านตาดสรุปความได้ว่า “หากมีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่ที่องค์หลวงตาเมตตาชี้ไว้เอง ทูลกระหม่อมฯ และคณะทำงานจะไม่เกี่ยวข้องกับการออกแบบก่อสร้าง แต่จะทรงสนับสนุนด้านพระราชทรัพย์ดังเดิม”
    ด้วยพระวินิจฉัยดังกล่าว วัดป่าบ้านตาดจึงได้นิมนต์พระภิกษุที่เคยจำพรรษา ณ วัดป่าบ้านตาดทุกรูปที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เข้ามาร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกันอย่างเร่งด่วน ข้อสรุปที่ได้จากการประชุมครั้งนี้ทำให้สามารถรวบรวมคำสั่งและคำปรารภขององค์หลวงตาเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุดยิ่งกว่าครั้งใดๆ จากนั้นวัดป่าบ้านตาดจึงมีหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ ตอบพระวินิจฉัยของทูลกระหม่อมฯ สรุปความเป็นข้อๆ ได้ว่า
๑.๑ พระผู้เกี่ยวข้องทุกรูปยืนยันตรงกันว่า องค์หลวงตาฯ ไม่เคยชี้จุดในการก่อสร้างเจดีย์หรือพิพิธภัณฑ์ด้วยองค์ท่านเองแต่อย่างใด เนื่องจากปฏิปทาขององค์หลวงตาฯ จะไม่มีคำสั่งหรือบอกให้ผู้ใดทำการใดๆอันนำมาซึ่งลาภ ยศ ความมีชื่อเสียง แก่องค์ท่านเองโดยเด็ดขาด ดังนั้น การที่คณะศิษย์ได้เข้าใจว่าองค์หลวงตาฯ เคยชี้จุดที่จะก่อสร้าง “หอธรรม” ด้วยองค์ท่านเอง ในพื้นที่บริเวณจิตกาธานมาก่อนนั้น จึงเป็นความสำคัญผิดของคณะศิษย์เองที่ไม่ได้สอบถามพระผู้เกี่ยวข้องเช่นที่ได้ประชุมร่วมกันในครั้งนี้
๑.๒ องค์หลวงตาฯ เคยมีคำสั่งห้ามทำสิ่งปลูกสร้างใดๆ ลงในพื้นที่บริเวณจิตกาธานด้วยเหตุผลว่า “ไม่ลงใจ” การปฏิเสธขององค์หลวงตาฯเช่นนี้ถือเป็นคำตอบที่ได้ข้อยุติแก่คณะสงฆ์ เมื่อครั้งได้เข้ากราบองค์หลวงตาฯ เพื่อขอก่อสร้าง “หอธรรม” ในบริเวณดังกล่าว  
๑.๓ การประชุมในครั้งนี้ ทำให้คณะสงฆ์ผู้เกี่ยวข้องประจักษ์ว่า องค์หลวงตาได้เมตตารับที่ดิน ๓๑ ไร่ ไว้มีวัตถุประสงค์สืบเนื่องมาเพื่อโครงการนี้ ทั้งนี้เนื่องจากผู้บริจาคที่ดินรายนี้ได้ประสบกับภาวะโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้าสมาชิกในครอบครัวอย่างรุนแรง จึงเป็นเหตุสำคัญให้ได้เข้ากราบขอความเมตตาและแสดงเจตนารมณ์ ต่อองค์หลวงตาฯ แม้ในทีแรกองค์หลวงตาฯไม่ได้ว่ากล่าวประการใด แต่ต่อมาองค์ท่านก็ปรารภเรื่องนี้ขึ้นและเมตตาโดยลงนามรับมอบการโอนที่ดินจนแล้วเสร็จตั้งแต่วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๒ ซึ่งแม้มิใช่การชี้จุดด้วยองค์ท่านเอง แต่คณะสงฆ์ทุกรูปก็ได้รับทราบชัดเจนในเจตนารมณ์ขององค์หลวงตาฯที่ได้รับมอบที่ดินดังกล่าว ดังนั้น คณะสงฆ์จึงยอมรับและดำเนินโครงการในที่ดินแปลงนี้ได้ด้วยเคารพบูชาอย่างสูงสุดในพระเมตตาขององค์หลวงตาฯ ที่มีต่อผู้ป่วยไข้และต่อโลก
๒.   ด้วยความผิดพลาดขาดความรอบคอบมาโดยตลอดตามที่ระบุไว้ในข้อ ๑ วัดป่าบ้านตาดจึงทำหนังสือด่วนที่สุดขอพระราชทานอภัยเป็นอย่างสูงต่อทูลกระหม่อมฯ ถึง ๒ ครั้ง ในความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้างให้สอดคล้องกับ เจตนารมณ์และพระเมตตาขององค์หลวงตาฯ โดยหนังสือขอพระราชทานอภัยฉบับล่าสุดลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ ตรงกับวันปวารณาที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ คณะสงฆ์ขอแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อทูลกระหม่อมฯ  ขอพระองค์ได้ทรงโปรดอดโทษ งดโทษต่อคณะสงฆ์ด้วย และขอพระมหากรุณาให้ทรงรับเป็นประธานโครงการนี้ดุจดังเดิมในที่ดิน ๓๑ ไร่ ที่ระบุไว้ในข้อ ๑.๓
๓.   สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์มีหนังสือตอบหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ และหลวงปู่ลี  กุสลธโร ลงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เพื่อกราบนมัสการโดยสรุปว่า ทูลกระหม่อมฯ ทรงมีพระวินิจฉัยว่า ทรงไม่รับเป็นประธานดำเนินการพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างตามสมควร ไม่สามารถเร่งรัดเวลาให้แล้วเสร็จเร็วที่สุดทันตามความประสงค์ของพระมหาเถระทั้งสองได้
    ด้วยพระวินิจฉัยดังกล่าว พระมหาเถระทั้งสองจึงมอบหมายให้วัดป่าบ้านตาดทำหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๗ ตอบทูลกระหม่อมฯ โดยสรุปว่า หลวงปู่พระมหาเถระทั้งสองขอทรงพระกรุณารับเป็นประธานดุจดังเดิม หลวงปู่ไม่ขัดข้องในเรื่องเวลาแล้วเสร็จ สุดแล้วแต่ทูลกระหม่อมฯ จะทรงเห็นควร หลวงปู่ขอเพียงมีจุดเริ่มต้นก็พอใจแล้ว พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ ที่วัดป่าบ้านตาดจะดำเนินต่อไปได้ก็ด้วยทูลกระหม่อมฯ เพียงเท่านั้น เพราะพระองค์เป็นลูกกษัตริย์และเป็นลูกของหลวงตา บุคคลอื่นจะทำเช่นนี้ไม่ได้ หลวงปู่ลียังกล่าวย้ำอีกว่า ที่หลวงปู่ทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อทูลกระหม่อมฯ โดยเฉพาะ นอกจากนี้องค์หลวงตาฯ ยังเคยกำชับไว้ด้วยว่า ห้ามพระองค์ใดเข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้
๔.   เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๗ ทูลกระหม่อมฯ ทรงมีรับสั่งต่อคณะสงฆ์ในวโรกาสเสด็จเยือนวัดป่าหลวงตามหาบัวฯ โคโลราโด สหรัฐอเมริกา สรุปได้ว่า ทรงรับจะดำเนินการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ ณ วัดป่าบ้านตาด ต่อไป ทรงขอให้คณะสงฆ์ตกลงกันให้เป็นที่เรียบร้อยและยืนยันให้ทราบแน่ชัดอีกครั้งว่า เห็นควรจะให้สร้างขึ้นในพื้นที่ใด คณะสงฆ์ที่สหรัฐอเมริกาจึงมีหนังสือแจ้งพระประสงค์ดังกล่าวมายังวัดป่าบ้านตาดเพื่อโปรดพิจารณา ด้วยพระมหากรุณาธิคุณและพระราชกุศลเจตนาของทูลกระหม่อมฯ ในครั้งนี้ ยังความปีติยินดีและซาบซึ้งแก่คณะสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ และประชาชนที่มีโอกาสได้รับฟังรับรู้เป็นอย่างยิ่ง
    ด้วยเหตุนี้ วัดป่าบ้านตาดจึงทำหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๗ ตอบอนุโมทนาพระประสงค์ของทูลกระหม่อมฯ และรวบรวมความเห็นของพระมหาเถระและพระเถระเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับองค์หลวงตาฯ จากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศจำนวน ๒๐ รูป    มีเจ้าคุณพระอุดมญาณโมลี(หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป) วัดโพธิสมภรณ์, หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ วัดป่านาคูณ,  หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต วัดถ้ำกลองเพล,  หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดภูผาแดง เป็นต้น   สรุปความเห็นได้ว่า คณะสงฆ์มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่มีรูปใดขัดข้อง ขอยืนยันสถานที่ก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ ให้เป็นไปตามความเมตตาขององค์หลวงตาฯ ที่ยอมรับที่ดิน ๓๑ ไร่ ของเจ้าของศรัทธา มีผลานิสงส์สืบเนื่องมาเพื่อการดำเนินการพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ ณ ที่แห่งนี้  โดยคณะสงฆ์ ๑๘ รูป ได้ร่วมลงนามยืนยันด้วยตนเอง อีก ๒ รูปได้แสดงเจตนายืนยันผ่านตัวแทนจึงระบุเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ในช่องลงนามด้วยรวม ๒๐ รูป ดังนั้น การยืนยันสถานที่ก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ ของคณะสงฆ์ตามพระประสงค์ จึงมีหลักฐานเป็นที่ปรากฏแก่ทูลกระหม่อมฯ และแก่อนุชนรุ่นหลังอย่างครบถ้วนสมบูรณ์
๕. เมื่องานพระราชทานเพลิงพระสรีระสังขารองค์หลวงตาฯ แล้วเสร็จ คณะสงฆ์วัดป่าบ้านตาดก็ได้จัดเตรียมและคัดแยก "พระอัฐิธาตุ" ขององค์หลวงตาฯ ในหลายรูปพรรณสัณฐานไว้เพื่อถวายทูลกระหม่อมฯ โดยเฉพาะ และได้มีการเก็บรักษาไว้อย่างดีที่สุด ในสถานที่ที่เหมาะสมและปลอดภัยตลอดมา โดยมิให้ผู้ใดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว ทั้งนี้เพื่อรอประกอบพระราชพิธีบรรจุ “พระอัฐิธาตุ” ประจำพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ ณ วัดป่าบ้านตาด ที่มีทูลกระหม่อมฯ เป็นองค์ประธาน สำหรับการสักการบูชากราบไหว้ของเหล่าพุทธศาสนิกชนสืบไป
๖. ยอดเงินบริจาคเพื่อพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ จนถึงขณะนี้รวมทั้งสิ้น ๓๖๙,๙๓๑,๖๗๗.๓๙  บาท (สามร้อยหกสิบเก้าล้านเก้าแสนสามหมื่นหนึ่งพันหกร้อยเจ็ดสิบเจ็ดบาท สามสิบเก้าสตางค์) ในระหว่างที่ทีมสถาปนิกในทูลกระหม่อมฯ นำโดยพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ พระธิดาของทูลกระหม่อมฯ กำลังดำเนินการออกแบบทั้งส่วนพิพิธภัณฑ์และส่วนพระเจดีย์ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร เนื่องจากงานออกแบบทางสถาปัตยกรรมนั้นต้องมีความประณีตบรรจงเป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะสรรค์สร้างผลงานได้สง่างามสมพระเกียรติองค์หลวงตาฯ ที่มีคุณูปการอย่างมหาศาลต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงไม่สามารถจะรีบเร่งให้แล้วเสร็จได้ตามใจปรารถนาของคณะศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย
        คณะสงฆ์จึงขอบิณฑบาตมายังคณะศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย โปรดอย่าได้เร่งรัด ขอให้ทุกท่านตั้งใจรักษาศีล เจริญเมตตาภาวนา และอธิษฐานบารมีให้ดี พร้อมกับส่งกำลังใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมจากการบำเพ็ญภาวนาของเรา มอบถวายเป็นผลานิสงส์แด่ทูลกระหม่อมฯ และทีมงานในพระองค์ทุกท่าน ให้มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงสมบูรณ์ ปราศจากอุปสรรคขัดขวาง สามารถดำเนินงานมหามงคลในครั้งนี้ให้สัมฤทธิ์ผลได้ดั่งใจปรารถนา และในระหว่างนี้คณะสงฆ์ยังเปิดโอกาสให้ทุกท่านผู้ปรารถนาจะสร้างมหากุศล สั่งสมบุญบารมี สามารถบำเพ็ญมหาทานในกองบุญดังกล่าวได้ ณ วัดป่าบ้านตาด และมูลนิธิจุฬาภรณ์ เพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์ฯ หลวงตามหาบัว ณ วัดป่าบ้านตาด
ตามที่กระผมได้กล่าวมาข้างต้นโดยลำดับนี้ คือความคืบหน้าของการดำเนินการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ คณะศิษยานุศิษย์องค์หลวงตาฯ ทั้งฝ่ายบรรพชิตและคฤหัสถ์ทุกหมู่เหล่าทั่วโลก ขอพึ่งพระมหากรุณาธิคุณและพระมหาบารมีของทูลกระหม่อมฯ และพระเจ้าหลานเธอฯ ที่จะทรงประทานปูชนียสถานอันเป็นมหามงคลสูงสุดแห่งหนึ่งในพระพุทธศาสนาแก่ปวงคณะศิษย์ฯ ให้เป็นที่เคารพสักการะของมนุษย์ เทพเทวดาและบรรดาเหล่าสรรพสัตว์ทั่วสามแดนโลกธาตุสืบไปตลอดสิ้นกาลนาน
นายทนันชัย ตรังคานุกูลกิจ
ตัวแทนคณะศิษยานุศิษย์
พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)
จาก: http://www.luangta.com/info/news_text.php?cginews_id=546&type=