วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สถานที่สร้างพิพิธภัณฑ์ "องค์หลวงตามหาบัว" ลงตัว



เมื่อเวลา ๑๔.๐๐ น. เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ที่ห้องประชุมสบายดี ชั้น ๔ ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี  เป็นประธานการประชุมการสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ที่วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมีพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด พร้อมคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ลูกศิษย์หลวงตาพระมหาบัว เข้าร่วมประชุม โดยมีนายกอบเกียรติ กาญจนะ รอง ผวจ.อุดรธานี นายอำนาจ ผการัตน์ อดีต ผวจ.อุดรธานี นำข้าราชการ ศิษยานุศิษย์เข้าร่วมประชุม

ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้า ว่าขณะนี้มีศรัทธาญาติโยม ร่วมบริจาคเงินร่วมก่อสร้าง "พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล" มีบัญชีเงินฝาก ๘ บัญชีใน ๕ ธนาคาร ประกอบด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงไทย , ธนาคารกสิกรไทย , ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารออมสิน รวมยอดบริจาคเมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๗ จำนวนเงิน ๓๖๒,๙๔๓,๙๓๘.๒๑ บาท , รูปแบบของเจดีย์ และพิพิธภัณฑ์ มีการออกแบบจนเป็นที่พอใจแล้ว

ทั้งนี้ที่ประชุมได้สรุป การแต่งตั้งคณะกรรมการอย่างเป็นทางการ ตามรูปแบบที่เคยดำเนินโครงการระดับประเทศ , โดยสถานที่การก่อสร้างได้เปลี่ยนแปลง ด้วยการคง"จิตกาธาน"ที่ใช้ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตาพระมหาบัว ไว้ในสภาพเดิมตลอดไป ตลอดจนให้บริเวณนั้นเป็นสถานที่ "ปฏิบัติธรรม" แล้วย้ายการก่อสร้างทั้งเจดีย์ และพิพิธภัณฑ์ ออกไปลานจอดรถด้านนอก หรือพื้นที่ด้านซ้ายก่อนถึงคอกวัวเดิม และให้คณะสถาปนิกทีมเดิม ทำการออกแบบรายละเอียดเจดีย์ และพิพิธภัณฑ์ พร้อมออกแบบภูมิทัศน์พื้นที่ ๓๑ ไร่ กำหนดเป็นแผนงานทั้งหมด

วันอังคารที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

แจ้งข่าวความคืบหน้า โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์

แจ้งข่าวความคืบหน้า
โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์
พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)

        เนื่องในวันนี้เป็นวันวิสาขบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญอย่างยิ่งในทางพระพุทธศาสนาที่ได้มีเหตุการณ์อัศจรรย์อันเกี่ยวข้องกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าถึง ๓ เหตุการณ์ คือ วันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน และความสำคัญดังกล่าวเป็นเหตุผลประการแรก ส่วนเหตุผลอีกประการหนึ่งก็เนื่องจากในวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ที่จะถึงนี้ เป็นวันครบรอบ ๖๔ ปี แห่งการบรรลุธรรมขององค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน สำเร็จเป็น “พระอรหันตสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์หนึ่งในสมัยปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์” ด้วยเหตุผลที่เกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันดังกล่าว คณะศิษยานุศิษย์จึงถือเอาวันทั้งสองเป็นวันสำคัญที่สุดของเราทั้งในนาม “พุทธศาสนิกชน” และในนาม “ลูกศิษย์องค์หลวงตาฯ” เราจึงต้องจักดำเนินรอยตามปฏิปทาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพ่อแม่ครูบาอาจารย์ และเพื่อเป็นการบูชาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและตอบแทนคุณขององค์หลวงตาฯ ที่ได้ปฏิบัติตนเป็นพุทธสาวกที่ดีงามจนสามารถครองธรรมขึ้นภายในใจได้สำเร็จเป็น “พระอรหันตสาวกที่ทำประโยชน์ต่อทางโลกและทางธรรมได้มากที่สุดรูปหนึ่งในยุคสมัยนี้”  เมื่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสยืนยันไว้แล้วว่า พระอรหันต์เป็นบุคคลที่คู่ควรแก่การสร้าง “เจดีย์” ไว้สำหรับกราบไหว้บูชา พ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายจึงเห็นพ้องต้องกัน ขอให้คณะศิษย์อาศัยโอกาสอันเป็นมหามงคลทั้งสองเหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการแสดงสามัคคีธรรมในโครงการ “พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)” ณ วัดป่าบ้านตาด ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธาน ให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติขององค์หลวงตาให้จงได้ ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นวาระๆ ไปคณะศิษย์ขอแสดงความกตัญญูกตเวทีโดยขอปวารณาว่า จะพร้อมใจกันร่วมสมทบทุนในการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ แห่งนี้อย่างต่อเนื่องจากวันก่อตั้งจนแล้วเสร็จโดยสมบูรณ์
สำหรับความเป็นมาของโครงการจนถึงบัดนี้นั้น กระผม นายทนันชัย ตรังคานุกูลกิจ ได้รับความเมตตาจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย รวมถึงท่านพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด มีเมตตามอบหมายให้กระผมทำหน้าที่แจ้งข่าวความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน) ณ วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ที่มีทูลกระหม่อมเจ้าฟ้าหญิงฯ ทรงเป็นองค์ประธาน ว่า จนถึงขณะนี้มีความคืบหน้าเป็นประการใดบ้าง พี่น้องประชาชนจากทั่วทุกสารทิศ คณะศิษยานุศิษย์ รวมทั้งพ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่างสอบถามข่าวคราวในเรื่องนี้ด้วยความสนใจและห่วงใย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่วัดป่าบ้านตาดมักมีผู้เข้ามาสอบถามอยู่เสมอ กระผมจึงกราบขอโอกาสรายงานความคืบหน้าเฉพาะประเด็นสำคัญเป็นข้อๆ ตามลำดับเหตุการณ์ ทราบโดยย่อดังนี้
๑.    เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ ทูลกระหม่อมเจ้าฟ้าหญิงฯ ทรงมีพระวินิจฉัยเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ เป็นการตอบหนังสือของวัดป่าบ้านตาดสรุปความได้ว่า “หากมีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่ที่องค์หลวงตาเมตตาชี้ไว้เอง ทูลกระหม่อมฯ และคณะทำงานจะไม่เกี่ยวข้องกับการออกแบบก่อสร้าง แต่จะทรงสนับสนุนด้านพระราชทรัพย์ดังเดิม”
    ด้วยพระวินิจฉัยดังกล่าว วัดป่าบ้านตาดจึงได้นิมนต์พระภิกษุที่เคยจำพรรษา ณ วัดป่าบ้านตาดทุกรูปที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เข้ามาร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกันอย่างเร่งด่วน ข้อสรุปที่ได้จากการประชุมครั้งนี้ทำให้สามารถรวบรวมคำสั่งและคำปรารภขององค์หลวงตาเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุดยิ่งกว่าครั้งใดๆ จากนั้นวัดป่าบ้านตาดจึงมีหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ ตอบพระวินิจฉัยของทูลกระหม่อมฯ สรุปความเป็นข้อๆ ได้ว่า
๑.๑ พระผู้เกี่ยวข้องทุกรูปยืนยันตรงกันว่า องค์หลวงตาฯ ไม่เคยชี้จุดในการก่อสร้างเจดีย์หรือพิพิธภัณฑ์ด้วยองค์ท่านเองแต่อย่างใด เนื่องจากปฏิปทาขององค์หลวงตาฯ จะไม่มีคำสั่งหรือบอกให้ผู้ใดทำการใดๆอันนำมาซึ่งลาภ ยศ ความมีชื่อเสียง แก่องค์ท่านเองโดยเด็ดขาด ดังนั้น การที่คณะศิษย์ได้เข้าใจว่าองค์หลวงตาฯ เคยชี้จุดที่จะก่อสร้าง “หอธรรม” ด้วยองค์ท่านเอง ในพื้นที่บริเวณจิตกาธานมาก่อนนั้น จึงเป็นความสำคัญผิดของคณะศิษย์เองที่ไม่ได้สอบถามพระผู้เกี่ยวข้องเช่นที่ได้ประชุมร่วมกันในครั้งนี้
๑.๒ องค์หลวงตาฯ เคยมีคำสั่งห้ามทำสิ่งปลูกสร้างใดๆ ลงในพื้นที่บริเวณจิตกาธานด้วยเหตุผลว่า “ไม่ลงใจ” การปฏิเสธขององค์หลวงตาฯเช่นนี้ถือเป็นคำตอบที่ได้ข้อยุติแก่คณะสงฆ์ เมื่อครั้งได้เข้ากราบองค์หลวงตาฯ เพื่อขอก่อสร้าง “หอธรรม” ในบริเวณดังกล่าว  
๑.๓ การประชุมในครั้งนี้ ทำให้คณะสงฆ์ผู้เกี่ยวข้องประจักษ์ว่า องค์หลวงตาได้เมตตารับที่ดิน ๓๑ ไร่ ไว้มีวัตถุประสงค์สืบเนื่องมาเพื่อโครงการนี้ ทั้งนี้เนื่องจากผู้บริจาคที่ดินรายนี้ได้ประสบกับภาวะโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้าสมาชิกในครอบครัวอย่างรุนแรง จึงเป็นเหตุสำคัญให้ได้เข้ากราบขอความเมตตาและแสดงเจตนารมณ์ ต่อองค์หลวงตาฯ แม้ในทีแรกองค์หลวงตาฯไม่ได้ว่ากล่าวประการใด แต่ต่อมาองค์ท่านก็ปรารภเรื่องนี้ขึ้นและเมตตาโดยลงนามรับมอบการโอนที่ดินจนแล้วเสร็จตั้งแต่วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๒ ซึ่งแม้มิใช่การชี้จุดด้วยองค์ท่านเอง แต่คณะสงฆ์ทุกรูปก็ได้รับทราบชัดเจนในเจตนารมณ์ขององค์หลวงตาฯที่ได้รับมอบที่ดินดังกล่าว ดังนั้น คณะสงฆ์จึงยอมรับและดำเนินโครงการในที่ดินแปลงนี้ได้ด้วยเคารพบูชาอย่างสูงสุดในพระเมตตาขององค์หลวงตาฯ ที่มีต่อผู้ป่วยไข้และต่อโลก
๒.   ด้วยความผิดพลาดขาดความรอบคอบมาโดยตลอดตามที่ระบุไว้ในข้อ ๑ วัดป่าบ้านตาดจึงทำหนังสือด่วนที่สุดขอพระราชทานอภัยเป็นอย่างสูงต่อทูลกระหม่อมฯ ถึง ๒ ครั้ง ในความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้างให้สอดคล้องกับ เจตนารมณ์และพระเมตตาขององค์หลวงตาฯ โดยหนังสือขอพระราชทานอภัยฉบับล่าสุดลงวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ ตรงกับวันปวารณาที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ คณะสงฆ์ขอแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อทูลกระหม่อมฯ  ขอพระองค์ได้ทรงโปรดอดโทษ งดโทษต่อคณะสงฆ์ด้วย และขอพระมหากรุณาให้ทรงรับเป็นประธานโครงการนี้ดุจดังเดิมในที่ดิน ๓๑ ไร่ ที่ระบุไว้ในข้อ ๑.๓
๓.   สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์มีหนังสือตอบหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ และหลวงปู่ลี  กุสลธโร ลงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เพื่อกราบนมัสการโดยสรุปว่า ทูลกระหม่อมฯ ทรงมีพระวินิจฉัยว่า ทรงไม่รับเป็นประธานดำเนินการพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างตามสมควร ไม่สามารถเร่งรัดเวลาให้แล้วเสร็จเร็วที่สุดทันตามความประสงค์ของพระมหาเถระทั้งสองได้
    ด้วยพระวินิจฉัยดังกล่าว พระมหาเถระทั้งสองจึงมอบหมายให้วัดป่าบ้านตาดทำหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๗ ตอบทูลกระหม่อมฯ โดยสรุปว่า หลวงปู่พระมหาเถระทั้งสองขอทรงพระกรุณารับเป็นประธานดุจดังเดิม หลวงปู่ไม่ขัดข้องในเรื่องเวลาแล้วเสร็จ สุดแล้วแต่ทูลกระหม่อมฯ จะทรงเห็นควร หลวงปู่ขอเพียงมีจุดเริ่มต้นก็พอใจแล้ว พิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ ที่วัดป่าบ้านตาดจะดำเนินต่อไปได้ก็ด้วยทูลกระหม่อมฯ เพียงเท่านั้น เพราะพระองค์เป็นลูกกษัตริย์และเป็นลูกของหลวงตา บุคคลอื่นจะทำเช่นนี้ไม่ได้ หลวงปู่ลียังกล่าวย้ำอีกว่า ที่หลวงปู่ทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อทูลกระหม่อมฯ โดยเฉพาะ นอกจากนี้องค์หลวงตาฯ ยังเคยกำชับไว้ด้วยว่า ห้ามพระองค์ใดเข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้
๔.   เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๗ ทูลกระหม่อมฯ ทรงมีรับสั่งต่อคณะสงฆ์ในวโรกาสเสด็จเยือนวัดป่าหลวงตามหาบัวฯ โคโลราโด สหรัฐอเมริกา สรุปได้ว่า ทรงรับจะดำเนินการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ ณ วัดป่าบ้านตาด ต่อไป ทรงขอให้คณะสงฆ์ตกลงกันให้เป็นที่เรียบร้อยและยืนยันให้ทราบแน่ชัดอีกครั้งว่า เห็นควรจะให้สร้างขึ้นในพื้นที่ใด คณะสงฆ์ที่สหรัฐอเมริกาจึงมีหนังสือแจ้งพระประสงค์ดังกล่าวมายังวัดป่าบ้านตาดเพื่อโปรดพิจารณา ด้วยพระมหากรุณาธิคุณและพระราชกุศลเจตนาของทูลกระหม่อมฯ ในครั้งนี้ ยังความปีติยินดีและซาบซึ้งแก่คณะสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ และประชาชนที่มีโอกาสได้รับฟังรับรู้เป็นอย่างยิ่ง
    ด้วยเหตุนี้ วัดป่าบ้านตาดจึงทำหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๗ ตอบอนุโมทนาพระประสงค์ของทูลกระหม่อมฯ และรวบรวมความเห็นของพระมหาเถระและพระเถระเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับองค์หลวงตาฯ จากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศจำนวน ๒๐ รูป    มีเจ้าคุณพระอุดมญาณโมลี(หลวงปู่จันทร์ศรี จันททีโป) วัดโพธิสมภรณ์, หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ วัดป่านาคูณ,  หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต วัดถ้ำกลองเพล,  หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดภูผาแดง เป็นต้น   สรุปความเห็นได้ว่า คณะสงฆ์มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่มีรูปใดขัดข้อง ขอยืนยันสถานที่ก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ ให้เป็นไปตามความเมตตาขององค์หลวงตาฯ ที่ยอมรับที่ดิน ๓๑ ไร่ ของเจ้าของศรัทธา มีผลานิสงส์สืบเนื่องมาเพื่อการดำเนินการพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ ณ ที่แห่งนี้  โดยคณะสงฆ์ ๑๘ รูป ได้ร่วมลงนามยืนยันด้วยตนเอง อีก ๒ รูปได้แสดงเจตนายืนยันผ่านตัวแทนจึงระบุเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ในช่องลงนามด้วยรวม ๒๐ รูป ดังนั้น การยืนยันสถานที่ก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ ของคณะสงฆ์ตามพระประสงค์ จึงมีหลักฐานเป็นที่ปรากฏแก่ทูลกระหม่อมฯ และแก่อนุชนรุ่นหลังอย่างครบถ้วนสมบูรณ์
๕. เมื่องานพระราชทานเพลิงพระสรีระสังขารองค์หลวงตาฯ แล้วเสร็จ คณะสงฆ์วัดป่าบ้านตาดก็ได้จัดเตรียมและคัดแยก "พระอัฐิธาตุ" ขององค์หลวงตาฯ ในหลายรูปพรรณสัณฐานไว้เพื่อถวายทูลกระหม่อมฯ โดยเฉพาะ และได้มีการเก็บรักษาไว้อย่างดีที่สุด ในสถานที่ที่เหมาะสมและปลอดภัยตลอดมา โดยมิให้ผู้ใดจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว ทั้งนี้เพื่อรอประกอบพระราชพิธีบรรจุ “พระอัฐิธาตุ” ประจำพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ ณ วัดป่าบ้านตาด ที่มีทูลกระหม่อมฯ เป็นองค์ประธาน สำหรับการสักการบูชากราบไหว้ของเหล่าพุทธศาสนิกชนสืบไป
๖. ยอดเงินบริจาคเพื่อพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ จนถึงขณะนี้รวมทั้งสิ้น ๓๖๙,๙๓๑,๖๗๗.๓๙  บาท (สามร้อยหกสิบเก้าล้านเก้าแสนสามหมื่นหนึ่งพันหกร้อยเจ็ดสิบเจ็ดบาท สามสิบเก้าสตางค์) ในระหว่างที่ทีมสถาปนิกในทูลกระหม่อมฯ นำโดยพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ พระธิดาของทูลกระหม่อมฯ กำลังดำเนินการออกแบบทั้งส่วนพิพิธภัณฑ์และส่วนพระเจดีย์ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร เนื่องจากงานออกแบบทางสถาปัตยกรรมนั้นต้องมีความประณีตบรรจงเป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะสรรค์สร้างผลงานได้สง่างามสมพระเกียรติองค์หลวงตาฯ ที่มีคุณูปการอย่างมหาศาลต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงไม่สามารถจะรีบเร่งให้แล้วเสร็จได้ตามใจปรารถนาของคณะศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย
        คณะสงฆ์จึงขอบิณฑบาตมายังคณะศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย โปรดอย่าได้เร่งรัด ขอให้ทุกท่านตั้งใจรักษาศีล เจริญเมตตาภาวนา และอธิษฐานบารมีให้ดี พร้อมกับส่งกำลังใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมจากการบำเพ็ญภาวนาของเรา มอบถวายเป็นผลานิสงส์แด่ทูลกระหม่อมฯ และทีมงานในพระองค์ทุกท่าน ให้มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงสมบูรณ์ ปราศจากอุปสรรคขัดขวาง สามารถดำเนินงานมหามงคลในครั้งนี้ให้สัมฤทธิ์ผลได้ดั่งใจปรารถนา และในระหว่างนี้คณะสงฆ์ยังเปิดโอกาสให้ทุกท่านผู้ปรารถนาจะสร้างมหากุศล สั่งสมบุญบารมี สามารถบำเพ็ญมหาทานในกองบุญดังกล่าวได้ ณ วัดป่าบ้านตาด และมูลนิธิจุฬาภรณ์ เพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์ฯ หลวงตามหาบัว ณ วัดป่าบ้านตาด
ตามที่กระผมได้กล่าวมาข้างต้นโดยลำดับนี้ คือความคืบหน้าของการดำเนินการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมเจดีย์ฯ คณะศิษยานุศิษย์องค์หลวงตาฯ ทั้งฝ่ายบรรพชิตและคฤหัสถ์ทุกหมู่เหล่าทั่วโลก ขอพึ่งพระมหากรุณาธิคุณและพระมหาบารมีของทูลกระหม่อมฯ และพระเจ้าหลานเธอฯ ที่จะทรงประทานปูชนียสถานอันเป็นมหามงคลสูงสุดแห่งหนึ่งในพระพุทธศาสนาแก่ปวงคณะศิษย์ฯ ให้เป็นที่เคารพสักการะของมนุษย์ เทพเทวดาและบรรดาเหล่าสรรพสัตว์ทั่วสามแดนโลกธาตุสืบไปตลอดสิ้นกาลนาน
นายทนันชัย ตรังคานุกูลกิจ
ตัวแทนคณะศิษยานุศิษย์
พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน)
จาก: http://www.luangta.com/info/news_text.php?cginews_id=546&type=

วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557

ถาม..หรือยัง

เกมจับผิดภาพ (ให้หา Link ที่ต่างกันจากล่างขึ้นบน)
----------------------------
นี่สอนหมดไส้หมดพุงทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าปฏิปทาเครื่องดำเนิน สอนหมดพุง ผลเกิดขึ้นมากน้อยเป็นยังไง ทุ่มลงไปจนหมดไม่มีอะไรเหลือเพื่อหมู่เพื่อคณะ ด้วยความเมตตาสงสารจริง ๆ เราไม่มีอะไรมาเกี่ยวข้อง โลกามิสใด ๆ ไม่มีมาเกี่ยวข้องในหัวใจเลย นอกจากเพื่อหัวใจหมู่เพื่อนถ่ายเดียวเท่านั้น ทุกข์ยากลำบากขนาดไหนก็ทนเอาเพราะเห็นแก่หัวใจ เพราะคิดว่าครูบาอาจารย์ทั้งหลายก็ค่อยร่วงโรยลงไป ร่วงโรยไป ๆ จะไม่มีที่ยึดที่ถือที่พอเป็นหลักเป็นเกณฑ์ ผู้เจตนาหวังดีที่ตั้งใจเป็นอรรถเป็นธรรมมีอยู่ จึงมามุ่ง

แต่นี้ไม่ทราบอะไรเป็นธรรมไม่เป็นธรรม มันกลายเป็นมูลสดมูลแห้งไปหมด แหลกไปตาม ๆ กันหมดนี่ แล้วผู้มาใหม่ก็ไม่รู้เรื่อง เห็นขี้ก็เลยคลุกเคล้ากันไปกับขี้นั้นไปเลย เพราะพวกนี้สร้างแต่ขี้ไว้ ขี้กองเต็มวัดเต็มวาไว้หมดหาที่เหยียบที่ย่างไม่ได้ ผู้มาทีหลังนึกว่าสถานที่นี่มีที่เหยียบที่ย่างตั้งแต่ขี้เท่านั้น ไม่มีอะไรดีไปกว่านั้นก็เหยียบไปตาม ๆ กัน มันก็แหลกไปตาม ๆ กันหมดไม่มีอะไรเหลือ


จาก..
เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๒๖
ศิษย์ดื้อ

http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=972&CatID=3

วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ขี้มันเหม็น..ก็อย่าไปเขี่ย

หลังจากมีประกาศวัดป่าบ้านตาด 01/2557 ก็มีหลายคนสนใจที่จะหาหนังสือภูริทัตตะ อัครเถราจารย์ ซึ่งหลวงตาฯ เคยบอกว่า ขี้มันเหม็น..ก็อย่าไปเขี่ยมัน!

หากเปรียบไปแล้ว หนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนผลไม้พิษ เพราะมีการสอดแทรกเนื้อหาอื่นเข้าไป ถึงแม้ได้มีการออกมายอมรับผิดแล้วก็ตาม แต่วิธีการแก้ปัญหา อาทิ อย่าได้ใส่ใจเนื้อหาที่สอดแทรกเข้ามา..(แล้วผู้ที่ไม่รู้จะทราบได้อย่างไร) และการให้พิมพ์ประกาศเป็นใบแทรกนั้น ไม่ได้สะท้อนว่าจะไม่ก่อให้เกิดผลเสียในอนาคตได้ เช่น จะแทรกได้ทุกเล่มหรือไม่ แทรกแล้วมีการตกหล่นหายหรือไม่ เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่หยาบมาก น่าสลดสังเวช นี่ไม่ใช่เรื่องความแพ้ความชนะ แต่เป็นการรักษาธรรมของพ่อแม่ครูจารย์ ..

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
ระตะนัตตะเย ปะมาเทนะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต

ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมอันน่าติเตียนใด ๆ ที่ข้าพเจ้าพลาดพลั้งไปล่วงเกินพระรัตนตรัย
ข้าพเจ้ากราบขอขมา

เพื่อเป็นการบูชาพระรัตนตรัย และไม่ให้หนังสือนี้จะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคตข้างหน้า ข้าพเจ้าขอบูชาอย่างยิ่งด้วยการเผาทำลายหนังสือเล่มนี้...

วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557

มาช้ายังดีกว่าไม่มา..

ประกาศวัดป่าบ้านตาด เรื่องหนังสือ "ภูริทัตตะ อัครเถราจารย์" (Eco-pirnt version)



จาก http://www.luangta.com/info/news_text.php?cginews_id=532&type=
(ปัจจุบันเป็น Hidden link คือ ผู้อ่านไม่สามารถเห็นได้จากหน้าข่าวประชาสัมพันธ์ของ Luangta.com แล้ว!!! นอกจากจะทราบ link นี้ หรือ ใช้ Google ค้นหา)
----------------------------

... ถ้าไม่มีธรรมเข้ากำจัดคัดค้านเอาไว้แล้ว กิเลสยิ่งพาให้พองตัวมากขึ้น ทำคนให้เสียจนกระทั่งถึงหมดค่าหมดราคาได้ เพราะกิเลสเข้าเหยียบย่ำทำลาย โดยที่เราไม่รู้ว่าเรามีกิเลส หรือกิเลสเข้าไปช่วยเหยียบย่ำทำลาย เราไม่รู้ เพราะเราลืมตัว ถ้ามีธรรมแทรกเข้ามาแล้ว การคิดอย่างนั้น การทำอย่างนี้ ผิดหรือถูก เมื่อว่าผิดแล้วแก้ไขทันที ทำตัวให้เป็นคนดี ด้วยศีลด้วยธรรม ด้วยความถูกต้องดีงาม เราก็เป็นคนดี จนกลายเป็นนิสัยขึ้นมา อยู่ที่ไหนก็ระมัดระวังความชั่วทั้งหลาย แล้วสั่งสมความดีขึ้นมาภายในจิตใจของเรา เราก็เป็นคนดี เป็นคนดีจนติดนิสัย คนใดเข้ามาเกี่ยวข้องคนดี ย่อมมีความซึมซาบกันทันทีทันใด เป็นลำดับลำดา ...

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส
ณ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตองครักษ์ จ.นครนายก
เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๖
ไม่มีใครเสมอครูคือศาสดาองค์เอก

----------------------------